วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การสนับสนุนธงราชนาวีให้แก่ รร.นร. เป็นกรณีพิเศษ

        ธงราชนาวีไทยเริ่มมีการใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งแต่เดิมธงราชนาวีมีลักษณะเป็นผ้าผืนสีแดงโดยไม่มีลวดลายหรือภาพใด ๆ ในผืนธง ซึ่งธงดังกล่าวนั้นมีใช้ทั้งราชการและราษฎรโดยทั่วไป
         ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของธงราชนาวีตามลำดับ ดังนี้
๑.      สมัย ร.๑ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของธงโดยเพิ่มวงจักรสีขาวบนพื้นธงสีแดงเพื่อบ่งบอกว่าเป็นธงราชนาวี สำหรับราษฎรทั่วไปยังคงใช้ธงผืนสีแดงเหมือนเดิม




๒.      สมัย ร.๒ ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มรูปช้างเผือก (ไม่ทรงเครื่อง) ไว้ภายในวงจักรสีขาว


๓.      สมัย ร.๔ มีการเปลี่ยนแปลงโดยนำภาพวงจักรสีขาวออก คงเหลือแต่ภาพช้างเผือก (ไม่ทรงเครื่อง) ตรงกลางพื้นธงสีแดง และอนุญาตให้ราษฎรทั่วไปใช้ธงลักษณะดังกล่าวได้ด้วย


๔.  สมัย ร.๕ เกิดพระราชบัญญัติธงขึ้นเป็นครั้งแรก ชื่อว่า “พระราชบัญญัติ ว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม ร.ศ.๑๑๐” ทรงมีพระราชดำริให้เปลี่ยนแปลงลักษณะของธงราชนาวี และเปลี่ยนชื่อเป็น “ธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่น” ใช้ชักที่ท้ายเรือพระที่นั่งและเรือรบหลวง และในสมัยของพระองค์ มีการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติธงที่สำคัญอีก ๒ ครั้ง ได้แก่ “พระราชบัญญัติธงรัตนโกสินทร์ศก ๑๑๖” เปลี่ยนชื่อจากธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นเป็น “ธงเรือหลวง” และต่อมามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งโดยเปลี่ยนชื่อจากธงเรือหลวงเป็น “ธงทหารเรือ” ใช้ชักท้ายเรือและสถานที่ราชการต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องแสดงว่าเรือและสถานที่นั้น ๆ ขึ้นอยู่กับกระทรวงทหารเรือ

                                    

๕.      สมัย ร.๖ ได้มีการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนชื่อจากธงทหารเรือ เป็น “ธงราชนาวี” ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน กล่าวคือ เหมือนธงไตรรงค์ ตรงกลางมีวงกลมสีแดง ภายในวงกลมมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นหันหน้าเข้าหาเสา นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๐ เป็นต้นมา


          สำหรับกรณีศึกษาที่ รร.นร.เสนอขออนุมัติกำหนดอัตราธงชาติไทยและธงราชนาวีเพื่อใช้ราชการเป็นส่วนกลางประจำหน่วยนั้น  ฝ่ายอำนวยการ ฯ ได้พิจารณาเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางอนุมัติ พธ.ทร. ตามบันทึก พธ.ทร. ที่ กห ๐๕๑๘/๓๗๐๕ ลง ๑๒ ต.ค.๓๒  เรื่อง หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายธง ซึ่งในเนื้อหาดังกล่าว พอสรุปได้ ดังนี้
          หน่วยบก : ในการเบิกธงเพื่อใช้กับเสาธงประจำหน่วยหรือมีความจำเป็นต้องใช้เป็นการประจำ ให้หน่วยผู้ใช้เสนอขออนุมัติกำหนดอัตราธงจาก พธ.ทร. ก่อนการเบิก  สำหรับธงบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องใช้น้อย หรือหน่วยมีความจำเป็นต้องใช้เป็นครั้งคราว ให้หน่วยผู้ใช้เสนอขออนุมัติเบิกยืมจาก กคพธ.ฯ, ศกล.ฯ, พธ.ฐท.สข. และ พธ.ฐท.พง. และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจให้ส่งคืนในโอกาสแรก

          หน่วยเรือ : ให้เบิกได้ตามจำนวนที่จำเป็นต้องใช้ราชการในเรือเท่านั้น ถ้าธงที่ใช้เป็นครั้งคราวให้เสนอขออนุมัติเบิกยืมเช่นเดียวกับหน่วยบก

          การเบิกธงที่นอกเหนือจากที่กล่าว ให้หน่วยผู้ใช้เสนอขออนุมัติจาก พธ.ทร. เป็นกรณีพิเศษ
          ทั้งหน่วยบกและหน่วยเรือ ให้เบิกเปลี่ยน (คืนซาก) ได้เมื่อชำรุดหรือเสื่อมสภาพ
  
          จากหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายธงฉบับดังกล่าว ฝ่ายอำนวยการ ฯ พิจารณาแล้ว ยังไม่สมควรกำหนดอัตราธงให้แก่ รร.นร. เนื่องจากเหตุผลความจำเป็น รวมทั้งวัตถุประสงค์ของหน่วยยังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ฯ แต่หน่วยมีความประสงค์จะขอกำหนดเป็นอัตรา โดยอ้างเหตุผลตามหลักเกณฑ์ ฯ สำหรับหน่วยบก ในข้อความที่ว่า “ในการเบิกธงเพื่อใช้กับเสาธงประจำหน่วยหรือมีความจำเป็นต้องใช้เป็นการประจำ” สามารถขออนุมัติกำหนดอัตราธงจาก พธ.ทร. ได้ ซึ่ง ฝ่ายอำนวยการ ฯ ประสานเพิ่มเติมกับหน่วยแล้วทราบว่า หน่วยมีวัตถุประสงค์จำนำธงราชนาวีและธงชาติไทยไปประดับในลักษณะไขว้กันบริเวณระเบียงด้านหน้าหอประชุมภูติอนันต์ โดยจะประดับเป็นการประจำ ซึ่งฝ่ายอำนวยการ ฯ พิจารณาแล้ว การประดับลักษณะดังกล่าวไม่ควรประดับเป็นการถาวรหรือประจำ แต่ควรประดับเฉพาะงานสำคัญ ๆ เสร็จแล้วควรปลดออกจะเหมาะสมกว่า  แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหน่วยได้ขอเบิกยืมธงไปใช้ราชการก่อนหน้านี้แล้ว และเพื่อเป็นการผลักใช้ทางบัญชีจากระบบการเบิกจ่ายของ พธ.ทร. จึงได้พิจารณาอนุมัติจ่ายให้แก่หน่วยเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่พิจารณากำหนดอัตราตามที่หน่วยร้องขอ
 

*****************



1 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ

ปฏิทินการจัดการความรู้